อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าประโยชน์ของผักสีเขียวนั้นมีคุณค่าทั้งวิตามินและแร่ธาตุหลากชนิด (คลิกอ่าน พลังของผักผลไม้หลากสี) ใครสนใจอยากทำเมนูผักใบเขียว อาหารเพื่อสุขภาพกินกับครอบครัว กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูผักใบเขียว มีทั้งเมนูผักคะน้า เมนูผักโขม เมนูปวยเล้ง และเมนูผักอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ อย่ารอช้า เริ่มจัดสำรับแรกรับต้นปีกันเลย
ผักคะน้า
ผักคะน้า อุดมไปด้วยสารอาหาร ตั้งแต่โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส เหล็ก โดยเฉพาะวิตามินซี และเบต้า-แคโรทีน (คลิกอ่าน คะน้า มาแล้วจ้า !) ใครสนใจอยากทำเมนูผักคะน้า ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ 11 เมนูจากผักคะน้า อร่อยแบบบ้าน ๆ จานไหนก็ห้ามพลาด
ถ้าวันนี้ไปเดินจ่ายตลาดแล้วเห็นผักใบเขียว โดยเฉพาะผักคะน้า รีบซื้อมารอไว้ก่อนเลยนะคะ ขอนำเสนอผัดคะน้ากรอบ สูตรจาก นิตยสาร Mother&Care สูตรนี้ใส่เต้าเจี้ยวลงไปผัดกับคะน้า ใส่เห็ดหอมเพิ่มกลิ่นรัญจวน ถ้าอยากได้ความเผ็ดอีกนิดก็ตำพริกขี้หนูใส่ลงไปผัดด้วยเลยจ้า
ส่วนผสม ผัดคะน้ากรอบ
• ก้านคะน้าและยอดอ่อน (หั่นท่อน)
• เห็ดหอมสด หั่นชิ้น (ล้างสะอาด)
• พริกขี้หนูกับกระเทียม ตำละเอียด
• เต้าเจี้ยว
• น้ำมันหอย
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันสำหรับผัด
วิธีทำผัดคะน้ากรอบ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อนใส่พริกขี้หนูและกระเทียมตำลงไปผัดจนหอม ใส่เต้าเจี้ยวลงไป
2. ใส่เห็ดหอมและก้านคะน้าลงไปผัด
3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและน้ำตาลทราย อาจเติมน้ำสะอาดลงไปเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แห้งเกินไป คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน รอจนสุก ตักใส่จาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ผัดคะน้ากรอบ เต้าเจี้ยว
+++++++++++++++++++
2. ผัดผักสี่สหาย
ผัดคะน้ากรอบกินไปเมื่อวาน วันนี้จะให้กินเหมือนเดิมคงไม่ไหว ลองเพิ่มผักอื่น ๆ ใส่ลงไปดีกว่า ขอนำเสนอผัดผักสี่สหาย สูตรจาก นิตยสาร Health & Cuisine เพิ่มวิตามินจากหน่อไม้ฝรั่ง ผักกาดขาว และเห็ดหอม น้ำเหนียวข้นขลุกขลิก อร่อยเด็ดต้องลอง
ส่วนผสม ผัดผักสี่สหาย
• ผักกาดขาว 100 กรัม
• เห็ดหอมสดขนาดกลาง 6 ดอก
• ยอดคะน้าฮ่องกง 100 กรัม
• หน่อไม้ฝรั่ง 100 กรัม
• กังป๋วยแช่น้ำให้นิ่มนำไปนึ่งจนสุก ฉีกเป็นเส้น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำสต๊อก Simmer Smith สูตร Chinese Soupereme 1+1/2 ถ้วย
• แป้งข้าวโพดผสมน้ำ (ในอัตราส่วน 1 : 1) 2 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือเล็กน้อย
• พริกไทยเล็กน้อย
• น้ำเย็นจัดสำหรับแช่ผัก
วิธีทำผัดผักสี่สหาย
1. ต้มน้ำให้เดือด เติมเกลือลงไปเล็กน้อยนำผักลงลวกให้พอสุกแล้วตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ผักเขียวสวย พักให้สะเด็ดน้ำ จัดลงจานให้สวยงาม
2. ต้มน้ำสต๊อกพอเดือด ใส่เหล้าจีน น้ำมันหอย เกลือ และพริกไทย ปรุงจนได้รสตามชอบ ค่อย ๆ เทแป้งข้าวโพดลงไปผสมแล้วคนจนเข้ากัน เติมกังป๋วย ปิดไฟ นำไปราดบนผักที่เตรียมไว้
หมายเหตุ : กังป๋วย คือ เอ็นหอยเชลล์ตากแห้งหาซื้อได้ที่ร้านขายยาจีนหรือตลาดเก่าเยาวราช
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ผัดผักสี่สหาย อาหารเหลาเพื่อสุขภาพสไตล์จีน
+++++++++++++++++++
ผักโขม
ผักโขม เป็นผักที่มีโปรตีนสูง โดยมีกรดอะมิโนสะสมอยู่ในผักมากถึง 30 ชนิด และยังมีเบต้า-แคโรทีน ซึ่งมีประโยชน์ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีสารซาโปนิน (Saponin) ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และยังมีวิตามินซีที่ป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน ที่สำคัญมีไฟเบอร์ ทำหน้าที่ในการกระตุ้นระบบการขับถ่าย (คลิกอ่าน ผักโขม ปวยเล้ง สองคู่หูตระกูลผัก แล้วคุณจะรักถ้าได้รู้คุณประโยชน์) ใครสนใจอยากทำเมนูผักโขม ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ 8 สูตรผักโขมอบชีส อาหารฝรั่งหอมกรุ่น อร่อยล้ำไม่ซ้ำสไตล์
3. ซุปผักโขม
ตอนเช้าอยากกินอาหารเบา ๆ ที่มีคุณค่าจากผักใบเขียวก็ขอแนะนำซุปผักโขม สูตรจาก เว็บไซต์ Ching Can Cook ซุปสีเขียว ใส่เห็ดแชมปิญองกับหอมใหญ่ กินกับขนมปังสักชิ้นก็อิ่มท้องแล้วค่ะ
ส่วนผสม ซุปผักโขม
• เนยสด
• หอมใหญ่ (หั่นเต๋าเล็ก)
• เห็ดแชมปิญอง (ซอยบาง)
• ผักโขมลวกสุก (บีบน้ำออก)
• น้ำซุปไก่
• วิปปิ้งครีม
• ผงปรุงรส
• พาร์สลีย์สับ
• พริกไทยป่น
• ขนมปังฝรั่งเศส (หั่นเป็นชิ้น)
• เนย (สำหรับทาขนมปัง)
วิธีทำซุปผักโขม
1. นำหม้อขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยลงไป ตามด้วยหอมใหญ่กับเห็ดแชมปิญอง ผัดจนหอมใหญ่สุกใส ใส่ผักโขมลวกลงไปผัด เติมน้ำซุปไก่ จากนั้นเทส่วนผสมลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียด เทใส่หม้อ ต้มจนเดือด
2. เติมวิปปิ้งครีม ปรุงรสด้วยผงปรุงรส ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ โรยพาร์สลีย์สับและพริกไทย เสิร์ฟพร้อมขนมปังฝรั่งเศสกับเนย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซุปผักโขม จับผักขม ๆ มาทำซุปอุ่น ๆ สุดอร่อย
+++++++++++++++++++
4. ผักโขมอบชีส สูตรออแกนิกส์
แหม... แค่เห็นผักสีเขียวของผักโขมพร้อมชีสก็น้ำลายสอแล้ว สูตรจาก คุณ Rock Barista สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับผักโขมไปต้มแล้วสับละเอียด ต่อมาก็เอาไปผัดเนย สุดท้ายก็เอาไปอบพร้อมโรยชีส
ส่วนผสม ผักโขมอบชีส
• ผักโขม 7 ต้น
• หอมใหญ่สับ 2 หัว
• กระเทียมสับ 1 หัว
• เนยสด ปริมาณตามชอบ
• นมสด
• เกลือ
• แป้งมันสำปะหลัง
• ชีสขูด
วิธีทำผักโขมอบชีส
1. ต้มผักโขมให้สุกแล้วสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่เนยลงกระทะ ผัดหอมใหญ่พอสุก ใส่กระเทียมผัดพอหอม ใส่ผักโขมสับ และเทนมสดลงไปนิดหน่อย
3. ปรุงรสด้วยเกลือ ใส่แป้งมันสำปะหลัง ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยทนความร้อน โรยชีสตามชอบ นำเข้าเตาอบจนชีสเยิ้ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ผักโขมอบชีส สูตรออแกนิกส์ ปลูกเองทำเองอิ่มอร่อยง่าย ๆ
+++++++++++++++++++
5. ไข่ตุ๋นนมสดผักโขม
คุณแม่ที่อยากได้เมนูผักใบเขียวสำหรับลูกรัก ขอแนะนำไข่ตุ๋นนมสดผักโขม สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ผักโขมผสมผสานกับเนื้อไข่ตุ๋น พร้อมกับก้ามปูหิมะเทียม ทั้งนุ่มทั้งหอม รับรองเด็ก ๆ กินเกลี้ยง
ส่วนผสม ไข่ตุ๋นนมสดกับผักโขม (สำหรับ 4 ที่)
• ไข่ไก่ 5 ฟองใหญ่
• นมข้นจืด 1 ถ้วย
• น้ำซุปไก่ 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
• ผักโขมลวกสับ 1/2 ถ้วย
• ก้ามปูหิมะเทียม 7 ชิ้น
วิธีทำไข่ตุ๋นนมสดกับผักโขม
1. ผสมไข่ไก่ นมข้นจืด และน้ำซุปไก่ เข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอนจนเนียน
2. แบ่งส่วนผสมไข่ประมาณ 1/3 ส่วน นำไปผสมกับผักโขม เทใส่ถ้วยทนความร้อน นำไปนึ่งพอสุก เสร็จแล้วใส่ก้ามปูลงไป เทส่วนผสมไข่ที่เหลือลงไป นึ่งต่อจนสุก จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไข่ตุ๋นนมสดกับผักโขม เมนูไข่เหมือนเดิมเพิ่มเติมวิตามินแน่น
+++++++++++++++++++
ปวยเล้ง
ปวยเล้ง มีทั้งโปรตีนและแร่ธาตุต่าง ๆ แค่การกินผักปวยเล้งเพียง 100 กรัม ก็ช่วยให้ได้รับวิตามินซีสูงเทียบเท่ากับปริมาณที่ร่างกายต้องการ และยังมีปริมาณเบต้า-แคโรทีนเทียบเท่ากับปริมาณที่ควรได้รับต่อวันถึง 2 เท่าเลยเชียวล่ะ นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ลดโอกาสการเกิดโรคกระดูกพรุน และเสริมความแข็งแรงด้วยแคลเซียม (คลิกอ่าน ผักโขม ปวยเล้ง สองคู่หูตระกูลผัก แล้วคุณจะรักถ้าได้รู้คุณประโยชน์) ใครสนใจอยากทำเมนูปวยเล้ง ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ เป็ดตุ๋นปวยเล้งเครื่องยา เมนูสุขภาพต้านเบาหวาน
6. น้ำปวยเล้ง+แอปเปิลเขียวปั่น
แม้ปวยเล้งเป็นผักใบเขียวที่มีประโยชน์ แต่เนื่องจากมีรสชาติขม ทำให้บางคนร้องอี๋กันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครอยากกินขอแนะนำให้จับมาทำเครื่องดื่มอย่างน้ำปวยเล้ง+แอปเปิลเขียวปั่น รับรองแก้วนี้ไม่มีความขม แต่ได้รสชาติเปรี้ยวอมหวานแทน ถ้าอยากเพิ่มรสหวานก็ใส่น้ำผึ้งลงไปเลยจ้า
ส่วนผสม น้ำปวยเล้ง+แอปเปิลเขียวปั่น
• ปวยเล้งประมาณ 1 กำมือ
• แอปเปิลเขียว (หั่นเต๋า) 1 ลูก
• น้ำสะอาด 1 แก้ว
วิธีทำน้ำปวยเล้ง+แอปเปิลเขียวปั่น
1. ล้างปวยเล้งและแอปเปิลเขียวให้สะอาด หั่นเตรียมไว้
2. นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
3. เทน้ำผัก-ผลไม้ปั่นใส่แก้ว สามารถเติมรสชาติด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำผึ้ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 สูตรน้ำผัก-ผลไม้ปั่นลดน้ำหนัก เครื่องดื่มสุขภาพประโยชน์ 2 ต่อ
+++++++++++++++++++
มาต่อกันที่อีกสูตรน้ำปวยเล้งปั่น สูตรนี้ใส่สับปะรดกับแตงกวาเพิ่มรสชาติ พอปั่นจนละเอียดปุ๊บก็กระดกเข้าคอได้เลย รับรองกากใยเพียบ
ส่วนผสม น้ำปวยเล้งปั่น+สับปะรด+แตงกวา
• สับปะรดหั่น 1 ถ้วยตวง
• แตงกวา 1 ลูก
• ปวยเล้ง 1 ถ้วยตวง
วิธีทำน้ำปวยเล้งปั่น+สับปะรด+แตงกวา
1. ล้างแตงกวาและปวยเล้งให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้
2. นำส่วนผสมทุกอย่างลงไปปั่น หากคิดว่าเนื้อข้นไป ให้เติมน้ำสะอาดลงไปในส่วนผสมได้
3. ปั่นต่อจนทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่แก้ว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 สูตรน้ำผัก-ผลไม้ปั่นลดน้ำหนัก เครื่องดื่มสุขภาพประโยชน์ 2 ต่อ
+++++++++++++++++++
ตำลึง
ตำลึง มีสรรพคุณในการระบายท้อง ลดการอึดอัดท้องหลังกินอาหารเนื่องจากมีสารช่วยย่อยแป้ง และช่วยแก้ร้อนใน และที่สำคัญเป็นยาพื้นบ้านใช้รักษาเบาหวาน (คลิกอ่าน 9 พืชผักมหัศจรรย์ รักษาโรคอย่างน่าทึ่ง) ใครสนใจอยากทำเมนูตำลึง ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ ข้าวต้มตำลึงนุ่มนิ่ม&ผักโขมรสเห็ด
8. แกงจืดตำลึง
ถ้าอยากบำรุงสายตาก็มาทำเมนูแกงจืดตำลึงกันเถอะ สูตรนี้ใส่เต้าหู้หลอดกับหมูสับเพิ่มโปรตีน หรือใครจะใส่เห็ด รวมทั้งตอกไข่ลงไปเพิ่มก็ไม่ว่ากัน แต่ที่สำคัญห้ามลืมใส่กระเทียมเจียวนะคะ
ส่วนผสม แกงจืดตำลึง
• เต้าหู้ไข่ 1 หลอด
• ตำลึง (เด็ดใบ) ตามชอบ
• หมูสับปรุงรส 100 กรัม
• น้ำซุป 4 ถ้วย
• เกลือป่น
• กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำแกงจืดตำลึง
1. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ เปิดไฟกลาง รอจนน้ำซุปเดือด ใส่หมูสับ ปรุงรสด้วยเกลือ
2. ใส่เต้าหู้หลอดกับตำลึงลงไป กดให้ตำลึงจมน้ำ ปิดฝา รอน้ำเดือดปิดไฟ
3. ตักใส่ภาชนะ โรยพริกไทยป่นกับกระเทียมเจียวลงไป
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงจืดตำลึง อาหารไทยบำรุงสายตาซดร้อน ๆ คล่องคอ
+++++++++++++++++++
9. ต้มเลือดหมูตำลึง
ใครชอบกินเครื่องในห้ามพลาดเมนูต้มเลือดหมูตำลึง สูตรจาก คุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่เครื่องในเยอะตามชอบ ปรุงรสเผ็ดหน่อย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ รับรองฟิน
ส่วนผสม ต้มเลือดหมูตำลึง
• กระดูกหมู 300 กรัม
• กระเทียม (ล้างสะอาด) 2 หัว
• รากผักชี 2 ราก
• พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่ถุงผ้าขาวบาง)
• ตับหมู 200 กรัม
• หัวใจหมู 200 กรัม
• เลือดหมู 1 ก้อน
• กระเพาะหมู 200 กรัม
• ไส้อ่อนและไส้ใหญ่หมู 300 กรัม
• พริกไทยป่น
• ต้นหอมกับผักชีซอย 1/2 ถ้วย
• กากหมูกระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย
• ตั้งฉ่าย
• ตำลึง 1 ถ้วย
• ซีอิ๊วขาว
• พริกน้ำส้ม
• พริกป่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำต้มเลือดหมูตำลึง
1. ล้างกระดูกหมูให้สะอาด ใส่ลงไปต้มกับน้ำเดือด ใส่กระเทียมทั้งเปลือก รากผักชี และถุงพริกไทย ตามด้วยกระเพาะหมู ไส้อ่อน และไส้ใหญ่หมู ต้มประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนสุกเปื่อย หมั่นช้อนฟองออกด้วย
2. หั่นตับสดกับหัวใจหมูเป็นชิ้นบางแต่ขนาดใหญ่ และหั่นเลือดหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ พักไว้
3. นำตำลึงรองก้นชาม ใส่ตั้งฉ่าย เตรียมไว้
4. พอเคี่ยวน้ำกระดูกหมูจนครบเวลา นำเครื่องในขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ และนำส่วนผสมเครื่องในทุกอย่าง ได้แก่ เลือดหมู หัวใจหมู กระเพาะหมู ไส้อ่อน และไส้ใหญ่หมู ลงไปลวกในน้ำซุปจนสุกตามชอบ ตักใส่ถ้วยที่รองด้วยตำลึง เติมน้ำซุป ใส่กากหมูกระเทียมเจียว โรยหน้าด้วยพริกไทย ต้นหอม และผักชีซอย ปรุงรสตามชอบ เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มเลือดหมูตำลึง น้ำซุปหวานหอมเครื่องเยอะอิ่มอุ่นยามเช้า
+++++++++++++++++++
10. น้ำตำลึง
ตำลึง ผักใบเขียวนอกจากเอามาทำเมนูแกงจืดได้แล้วยังเอามาทำเครื่องดื่มได้ด้วยนะคะ นั่นคือน้ำตำลึง สูตรทำง่ายจับตำลึงไปปั่นกับน้ำ เติมน้ำผึ้งและน้ำแข็ง
ส่วนผสม น้ำตำลึง
• ใบตำลึง 20 กรัม (ประมาณ 20-30 ใบ)
• น้ำ 200 มิลลิลิตร
• น้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม 30 มิลลิลิตร
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น ปริมาณเล็กน้อย
• น้ำแข็ง
วิธีทำน้ำตำลึง
1. ล้างใบตำลึงให้สะอาด ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก ปั่นผสมจนละเอียด นำไปกรองเอาแต่น้ำ
2. เทน้ำตำลึงใส่หม้อ นำไปต้มจนเดือด ยกลง พักไว้จนเย็น
3. เทน้ำตำลึงใส่แก้ว เติมน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และเกลือป่นเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง พร้อมดื่ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำตำลึง เครื่องดื่มสมุนไพรจากริมรั้ว
+++++++++++++++++++
ผักบุ้ง
ผักบุ้ง ในประเทศไทยมีผักบุ้งทั้งหมด 3 ชนิด คือ ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน และผักบุ้งนา ซึ่งก็ล้วนแต่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย นอกจากช่วยบำรุงสายตาแล้วยังรักษาอาหารนอนไม่หลับ แก้ท้องผูก และบำรุงเลือด (คลิกอ่าน ผักบุ้ง สรรพคุณจัดเต็ม บำรุงสายตา ลดเบาหวาน ของดีที่หาทานได้ใกล้ตัว) ใครสนใจอยากทำเมนูผักบุ้ง ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ ยำผักบุ้งกรอบ เมนูแซ่บ ๆ ที่อยากให้ทุกคนลองชิม
11. ยำผักบุ้ง ไข่ต้มยางมะตูม
เอาใจสาว ๆ ที่ชอบเมนูยำกันหน่อย ขอนำเสนอยำผักบุ้ง สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน จับผักบุ้งไทยลวกในน้ำกะทิ เคล้ากับกุ้งลวก และน้ำยำ เพิ่มเติมความหอมจากกระเทียมเจียวและหอมเจียว กินกับไข่ต้มยางมะตูม
ส่วนผสม ยำผักบุ้ง
• กุ้งสด (ปอกเปลือกผ่าหลังดึงเส้นดำ) 5 ตัว
• ผักบุ้งไทย 150 กรัม
• ไข่ต้มยางมะตูม 1 ฟอง
• หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
• ถั่วลิสงคั่ว (บุบพอแตก) 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูแห้งทอด 5 เม็ด
• หัวกะทิ (สำหรับราด) 2-3 ช้อนโต๊ะ
• หางกะทิ (สำหรับลวกผักบุ้งและกุ้ง)
ส่วนผสม น้ำยำ
• น้ำพริกเผา 3 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำยำ
• ผสมส่วนผสมน้ำยำทั้งหมดให้เข้ากัน เตรียมไว้
วิธีทำยำผักบุ้ง
1. หั่นผักบุ้งเป็นท่อนขนาด 1 เซนติเมตร เตรียมไว้
2. ต้มหางกะทิพอเดือด ใส่ผักบุ้งลงลวก พอสุกตักขึ้น ใส่กุ้งลงลวกต่อ พอสุกตักขึ้น
3. ใส่ผักบุ้งลงในภาชนะ ตามด้วยกุ้งลวก ราดน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน ราดหัวกะทิ โรยหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว ถั่วลิสง พริกขี้หนูแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำผักบุ้ง ไข่ต้มยางมะตูม เมนูยำบำรุงตาให้หวานหยาดเยิ้ม
+++++++++++++++++++
ผักหวานป่า
ผักหวานป่า มีวิตามินซี เบต้า-แคโรทีน แคลเซียม โปรตีน และฟอสฟอรัสสูง ที่สำคัญมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง ทำให้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ยิ่งใครที่มีอาการท้องผูกบ่อย ๆ หากกินผักหวานเป็นประจำ จะทำให้ขับถ่ายคล่องขึ้น (คลิกอ่าน ผักหวานป่า ซูเปอร์ฟู้ดแบบไทย ๆ ต้านมะเร็งได้ แก้ท้องผูกยิ่งดี) ใครสนใจทำเมนูผักหวาน ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ แกงผักหวานป่าปลากรอบ มาทำกินกันค่ะ
12. ยำผักหวาน
มื้อเย็นมาทำเมนูผักใบเขียวลดความอ้วนกันเถอะ ขอนำเสนอยำผักหวาน สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใส่กุ้งสดกับอกไก่ คลุกเคล้ากับน้ำยำพริกเผา ทำง่ายจานเดียวก็อิ่มท้อง
ส่วนผสม ยำผักหวานป่ากุ้งสด
• กุ้งสด 10-12 ตัว (ปอกเปลือกเหลือหาง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก)
• ผักหวาน (เด็ดเป็นท่อนสั้น ๆ) 250 กรัม
• เนื้ออกไก่ (สับละเอียด) 100 กรัม
• หอมแดงซอย 3 หัว
• น้ำพริกเผา (สูตรเผ็ดกลาง) 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3/4 ช้อนโต๊ะ
• ผักชี (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
• ต้นหอม (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
• พริกชี้ฟ้าแห้งทอด (หั่นเป็นท่อนสั้น) 5 เม็ด
• น้ำเปล่า
• ข้าวซ้อมมือ
วิธีทำยำผักหวานป่า
1. ต้มน้ำเปล่าให้เดือด นำผักหวานลงลวกประมาณ 10 วินาที ตักแช่ลงในน้ำเย็นจัดจนผักคลายร้อน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
2. ใส่กุ้ง และเนื้ออกไก่สับลงลวกในน้ำเดือดจนสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ และเย็น
3. เตรียมน้ำยำ โดยผสมน้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว และน้ำพริกเผาจนเข้ากันดี ใส่หอมแดงซอย เนื้ออกไก่ลวก กุ้งลวก และผักหวาน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. โรยหน้าด้วยผักชี ต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวซ้อมมือ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำผักหวานใส่กุ้ง เมนูลดน้ำหนักจากผักพื้นบ้าน
+++++++++++++++++++
13. แกงป่าผักหวาน
ถ้าไม่ชอบแกงกะทิก็มาทำแกงป่ารสเผ็ดร้อนแสบทรวงกันดีกว่า ขอแนะนำแกงป่าผักหวาน สูตรจาก เว็บไซต์ in-kitchen ทีเด็ดอยู่ที่ใส่ผักหวานลงไปด้วย เครื่องแกงทำเอง ใส่ปลากรอบและกุ้ง ขอข้าวสวยสักจาน
ส่วนผสม แกงผักหวานป่า
• ปลากด (รมควัน)
• กุ้งสด
• ตัวปลาร้า
• น้ำเปล่า
• พริกขี้หนูแห้ง
• หอมแดง
• กระเทียม
• ผักหวานป่า
วิธีทำแกงผักหวานป่า
1. แกะเนื้อปลากดเอาแต่เฉพาะเนื้อ จากนั้นแกะเปลือกกุ้งให้เหลือหาง เตรียมไว้ (ส่วนก้างปลา หัวกุ้ง และเปลือกกุ้งยังไม่ต้องทิ้ง เก็บไว้ต้มน้ำซุป)
2. นำเนื้อปลาไปคั่วในกระทะด้วยไฟแรง ๆ โดยใช้ตะหลิวผัดเร็ว ๆ ตลอดเวลา สักพักปลาจะมีน้ำมันซึมออกมา ให้คั่วไปเรื่อย ๆ เร็ว ๆ จนปลามีกลิ่นหอมและดูกรอบมากขึ้น พอปลากรอบขึ้น และหอมให้นำขึ้นจากกระทะ เตรียมไว้
3. ใส่ก้างปลา หัวกุ้ง และเปลือกกุ้งลงไปต้ม ตามด้วยตัวปลาร้า (เพื่อความเค็มและหอม) เติมน้ำเปล่าลงไป
4. นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ พอให้เดือดรุม ๆ ไปเรื่อย ๆ สภาพในหม้อได้ประมาณนี้
5. เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ สักครึ่งชั่วโมง กรองเอาแต่น้ำซุป ตักใส่หม้อพักไว้ หรือเปิดไฟอุ่นไว้ก็ได้
6. ตำเครื่องแกง โดยโขลกพริกขี้หนูแห้งให้ละเอียด ตามด้วยหอมแดงและกระเทียม โขลกให้ละเอียด (อัตราส่วนหอมแดง : กระเทียม อยู่ที่ประมาณ 4 : 1)
7. ตักเครื่องแกงใส่ลงในหม้อน้ำซุป ชิมรสชาติ
8. ต้มน้ำแกงให้เดือดพล่าน ใส่ปลากรอบและกุ้งลงไป ใส่ผักหวานป่าลงไป เอาทัพพีกดให้จมน้ำแกง ปิดไฟ ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยปลากรอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงป่า แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ เมนูอร่อยจากผักหวาน
+++++++++++++++++++
ผักกวางตุ้ง
ผักกวางตุ้ง ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ช่วยบรรเทาอาการปวดตามข้อ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งกล้ามเนื้อเสื่อม (คลิกอ่าน 10 ผักเจยอดฮิต เทศกาลกินเจ 2559 พร้อมวิธีทำอาหารเจ) ใครสนใจทำเมนูผักกวางตุ้ง ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง เสิร์ฟร้อน ๆ อร่อยเต็มอิ่ม
เคยทำแต่ผักกวางตุ้งน้ำมันหอย คราวนี้ลองเปลี่ยนมาทำสลัดผักกวางตุ้งเพื่อสุขภาพดีกว่า สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใส่อกไก่ต้มกับวุ้นเส้น และผักสลัดตามชอบ ราดน้ำสลัดน้ำใสงาขาว รับสักมื้อไหมคะ
ส่วนผสม สลัดผักกวางตุ้งกับอกไก่ต้ม
• อกไก่ลอกหนังต้ม (ฉีกเป็นเส้น) 300 กรัม
• ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ต้นเล็ก 100 กรัม
• วุ้นเส้น (แช่น้ำพอนุ่มลวกสุก) 50 กรัม
• พริกหวานสีแดง (คว้านไส้ออก หั่นเป็นเส้นใหญ่) 1 เม็ด
• ผักสลัดรวมตามชอบ เช่น ผักเรดคอรัล ผักกาดแรดิชชิโอ หรือผักกรีนคอส
ส่วนผสม น้ำสลัดน้ำใสงาขาว
• น้ำมันมะกอก (Extra Virgin) 3 ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง
• น้ำมะนาวสด 3 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมกลีบใหญ่ (สับละเอียด) 1 ช้อนชา
• ขิงสด (สับละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าสีแดงไม่เอาเมล็ด (สับละเอียด) 1 เม็ด
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำสลัดผักกวางตุ้งกับอกไก่ต้ม
1. ผสมส่วนผสมน้ำสลัดให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ล้างผักกวางตุ้งฮ่องเต้และผักสลัดให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ หั่นผักกวางตุ้งใบใหญ่ครึ่งใบ และจัดเรียงใส่จาน ตามด้วยผักสลัดและวุ้นเส้น
3. เรียงพริกหวาน และอกไก่ต้มฉีกเป็นเส้นลงด้านบน ราดด้วยน้ำสลัด 4-5 ช้อนโต๊ะ จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อาหารลดน้ำหนัก สลัดผักกวางตุ้งกับอกไก่ต้ม เสิร์ฟคู่น้ำสลัดน้ำใสงาขาว
+++++++++++++++++++
15. เกี๊ยวน้ำไก่แดง
ผักกวางตุ้งนอกจากเอาไปทำสลัดได้แล้วยังเอามาทำเมนูอาหารจานเดียวอย่างเกี๊ยวน้ำได้ด้วยนะคะ ขอนำเสนอเกี๊ยวน้ำไก่แดง สูตรจาก คุณ iamrabbiy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้จับเกี๊ยวห่อไก่สับ โปะเนื้อไก่แดงย่างหอม ๆ ราดน้ำซุปผักแสนหวาน
ส่วนผสม น้ำซุปผัก
• น้ำเปล่า
• แครอท (หั่นชิ้น)
• ไช้เท้า (หั่นชิ้น)
• รากผักชี
• ซอสหอยนางรม (สูตรโซเดียมต่ำ)
• น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
ส่วนผสม ไก่แดง
• สันในไก่ (หั่นชิ้นพอประมาณ)
• ผงปรุงรสหมูแดง
ส่วนผสม เกี๊ยวน้ำ
• เนื้ออกไก่บด
• ซีอิ๊วขาว (สูตรโซเดียมต่ำ)
• น้ำมันงา
• รากผักชีสับ
• กระเทียมสับ
• พริกไทยดำบด
• น้ำเปล่า
• น้ำมันมะกอก
• น้ำซุปผัก
• กวางตุ้งลวก
• ไก่แดง
• ผักชี (สำหรับตกแต่ง)
• น้ำมะนาว
• พริกป่น
วิธีทำน้ำซุปผัก
1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อตั้งไฟปานกลาง
2. ใส่แครอท ไช้เท้า และรากผักชี ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรมและน้ำปลา
วิธีทำไก่แดง
• ใช้ผงปรุงรสหมูแดงหมักสันในไก่สักครู่แล้วเอาไปย่างจนสุก
วิธีทำเกี๊ยวน้ำ
1. หมักอกไก่กับซีอิ๊วขาว น้ำมันงา รากผักชี กระเทียม และพริกไทยแช่เย็นไว้ 1 คืน
2. นำส่วนผสมไส้วางไว้ตรงกลางแผ่นเกี๊ยวแล้วห่อ นำไปต้มน้ำเปล่าจนสุก สะเด็ดน้ำ คลุกน้ำมันมะกอก
3. ตักน้ำซุปผักราดลงบนตัวเกี๊ยว ใส่ผักกวางตุ้งลวกและไก่แดงลงไป โรยผักชี พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อาหารคลีนแบบไทย 29 เมนู กินแล้วชีวิตดี๊ดี ไขมันต่ำอิ่มโปรตีนประโยชน์เต็ม
+++++++++++++++++++
ใบชะพลู
ใบชะพลู มีวิตามินเอ และแคลเซียมในปริมาณสูง นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และกากใยช่วยในการขับถ่าย มีเบต้า-แคโรทีนช่วยบำรุงและรักษาสายตา ใครสนใจทำเมนูใบชะพลู ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ แกงคั่วหมูย่างใบชะพลู แกงไทยจากสวนครัวหลังบ้าน และขนมจีนแกงปูใบชะพลู กลิ่นหอมชวนหิว
16. ปลาแซลมอนย่างใบชะพลู
ใบชะพลูเหลือ ๆ อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ จับมาทำปลาแซลมอนย่างใบชะพลู สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine จับปลาแซลมอนห่อใบชะพลู นำไปย่างจนปลาสุก เสิร์ฟกับน้ำจิ้มมะขามเปียก
ส่วนผสม ปลาแซลมอนย่างใบชะพลู (สำหรับ 2 ที่)
• เนื้อปลาแซลมอน (หั่นชิ้นยาว ประมาณ 3 นิ้ว) จำนวน 200 กรัม
• ใบชะพลู 20 ใบ
• น้ำมันพืช เล็กน้อย
• เกลือป่น เล็กน้อย
• พริกไทยดำบดหยาบ เล็กน้อย
ส่วนผสม น้ำจิ้ม
• น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนู (หั่นแว่น) 2 เม็ด
วิธีทำปลาแซลมอนย่างใบชะพลู
1. โรยเกลือและพริกไทยดำบนเนื้อปลาแซลมอน จากนั้นห่อด้วยใบชะพลู เสียบไม้แล้วย่างบนกระทะที่ใส่น้ำมันเล็กน้อยจนเนื้อปลาสุก
2. เตรียมส่วนผสมน้ำจิ้ม โดยผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำเข้าด้วยกัน ต้มจนเดือด ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น ใส่พริกขี้หนู ชิมรส เสิร์ฟพร้อมปลาแซลมอนย่างใบชะพลู
หมายเหตุ : ใส่เมล็ดพริกไทยสดห่อไปด้วยก็ได้ตามชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แซลมอนย่างใบชะพลู ปรับสมดุลร่างกายหลังปาร์ตี้
+++++++++++++++++++
17. เมี่ยงคำ
บ่าย ๆ แบบนี้มาทำอาหารว่างจากผักใบเขียวแก้ง่วงกันดีกว่า ขอนำเสนอเมี่ยงคำ มาพร้อมเครื่องเคราแน่น ราดน้ำจิ้มหอม ๆ รับรองเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ
ส่วนผสม น้ำจิ้มเมี่ยงคำ
• ข่าหั่นเป็นแว่น 5 ชิ้น
• ตะไคร้ซอยบาง 1 ต้น
• หอมแดง 1 หัว
• กะปิอย่างดี 2 ช้อนชา
• น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
• น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา
• กุ้งแห้งโขลกละเอียด
• ถั่วลิสงโขลกละเอียด
• มะพร้าวคั่ว
ส่วนผสม เครื่องเคียง
• มะพร้าวแก่ซอยคั่วกรอบ
• กุ้งแห้ง
• พริกขี้หนูซอยบาง
• หอมแดงหั่นเต๋าเล็ก
• ขิงหั่นเต๋าเล็ก
• ถั่วลิสงคั่ว
• มะนาวหั่นเต๋า
• ใบชะพลู หรือใบทองหลาง
วิธีทำเมี่ยงคำ
1. ทำน้ำจิ้ม โดยโขลกข่า ตะไคร้ และหอมแดงให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิลงโขลกผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ใส่น้ำ และน้ำตาลปี๊บลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ คนผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา คนผสมจนเข้ากัน และส่วนผสมเดือด ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ
3. ใส่กุ้งแห้งโขลก ถั่วลิสงโขลก และมะพร้าวคั่ว คนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย
4. นำใบชะพลูห่อเครื่องเคียง เสิร์ฟกับน้ำจิ้มเมี่ยงคำ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เมี่ยงคำ อาหารว่างลดน้ำหนักเคี้ยวเพลิน ๆ
+++++++++++++++++++
ต้นอ่อนทานตะวัน
ต้นอ่อนทานตะวัน มีทั้งไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี และโพแทสเซียม หรือแม้แต่ไขมันชนิดที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย (คลิกอ่าน ต้นอ่อนทานตะวัน ประโยชน์อนันต์ที่ไม่ควรพลาดจากพืชตัวน้อย) ใครสนใจทำเมนูต้นอ่อนทานตะวัน ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ 9 เมนูต้นอ่อนทานตะวัน หลากเมนูอร่อยจากผักทางเลือก พร้อมวิธีเพาะแบบง่าย ๆ
18. ยำต้นอ่อนทานตะวันหมูยอ
ซื้อต้นอ่อนทานตะวันมาเยอะ ก็แบ่งมาทำเมนูยำต้นอ่อนทานตะวันหมูยอสักมื้อสิคะ สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมน้อย ใส่หมูยอกับเห็ดเข็มทอง เพิ่มสีสันจากมะเขือเทศและแครอท คลุกกับน้ำยำรสแซ่บ
ส่วนผสม น้ำยำ
• พริกสด
• น้ำปลา
• น้ำมะนาว
• น้ำตาลมะพร้าว
ส่วนผสม ยำหมูยอต้นอ่อนทานตะวัน
• ต้นอ่อนทานตะวัน
• มะเขือเทศ
• เห็ดเข็มทอง
• แครอท
• หมูยอ
วิธีทำยำหมูยอต้นอ่อนทานตะวัน
1. ทำน้ำยำ โดยผสมพริกสด น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลมะพร้าว คนให้เข้ากัน
2. เทส่วนผสมทุกอย่างลงไปคลุกกับน้ำยำให้เข้ากัน จัดใส่จาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำต้นอ่อนทานตะวันหมูยอ จับคู่ฟีเจอริ่งอร่อยแซ่บมีประโยชน์
+++++++++++++++++++
19. ส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน
เติมความแซ่บยามเที่ยงกันด้วยเมนูส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน สูตรจาก เฟซบุ๊ก Eat for Health by JJ ใส่ต้นอ่อนทานตะวันแทนเส้นมะละกอ ใส่ข้าวโพดกับถั่วฝักยาว โรยถั่วเคี้ยวกรุบ
ส่วนผสม ส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน
• ต้นอ่อนทานตะวัน
• เม็ดข้าวโพดต้มฝานหรือแกะเม็ด
• มะเขือเทศสีดา หรือมะเขือเทศราชินี
• ถั่วฝักยาว
• กระเทียม 2-3 กลีบ
• พริกขี้หนู 3-5 เม็ด
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา (Low Sodium) 1 ช้อนชา
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
• ถั่วลิสงคั่ว
• กุ้งแห้ง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• ข้าวเหนียวดำหุงสุก
วิธีทำส้มตำต้นอ่อนทานตะวัน
1. โขลกพริกขี้หนูและกระเทียมพอแตก เติมมะนาว น้ำผึ้ง และน้ำปลา เคล้าผสมให้เข้ากัน
2. ใส่ต้นอ่อนทานตะวัน ข้าวโพด มะเขือเทศ และถั่วฝักยาวลงไป คลุกให้เข้ากัน
3. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยถั่วลิสง และกุ้งแห้ง เสิร์ฟกับข้าวเหนียวดำ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 25 เมนูอาหารคลีน แบบไม่ 100% ทำง่าย กินง่าย สำหรับมือใหม่
+++++++++++++++++++
20. ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
ใครชอบกินยำแซลมอนเป็นทุนเดิม ลองเพิ่มต้นอ่อนทานตะวันลงไปดีไหม กลายเป็นยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน สูตรจาก คุณ iammreview สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับปลาแซลมอนเคล้ากับเครื่องยำ สุดท้ายก็ราดลงไปบนต้นอ่อนทานตะวัน
ส่วนผสม ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
• แซลมอนดิบ
• พริกขี้หนูซอย
• กระเทียมหั่น
• น้ำปลา
• ผงปรุงรสเล็กน้อย
• น้ำตาลทราย
• มะนาว 1 ลูก
• ต้นหอมซอย
• หอมแดงซอย
• ตะไคร้ซอย
• ใบมะกรูดซอย
• ใบสะระแหน่
• ต้นอ่อนทานตะวัน
วิธีทำยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน
1. ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงไปเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส และน้ำตาลทราย บีบมะนาวลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ใส่ต้นหอม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบสะระแหน่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
3. ใส่แซลมอนลงไป คลุกเคล้าให้ทั่ว เทใส่บนต้นอ่อนทานตะวันที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ยำแซลมอนต้นอ่อนทานตะวัน เมนูสำหรับวัยจี๊ดต้องยำซี้ดได้สุขภาพ
+++++++++++++++++++
ไข่เจียวใส่หมูสับกินบ่อยจนเบื่อแล้วลองเปลี่ยนมาใส่ต้นอ่อนทานตะวันลงไปดีไหม สูตรนี้เพิ่มสีสันจากแครอทและข้าวโพดอ่อนด้วย เอาล่ะ… ไปจ่ายตลาดซื้อส่วนผสมกันเลยดีกว่า
ส่วนผสม ไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• ต้นอ่อนทานตะวัน (ล้างสะอาด)
• ข้าวโพดอ่อน
• แครอท
• ซีอิ๊วขาว สูตรลดโซเดียม 2 ช้อนชา
• น้ำมันพืช สำหรับทอด
วิธีทำไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน
1. หั่นแครอทให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็ก ๆ เตรียมไว้
2. หั่นข้าวโพดอ่อนเป็นชิ้นบาง ๆ เตรียมไว้
3. ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีพอแตก ใส่แครอทและข้าวโพดอ่อนลงไปตีผสม ตามด้วยต้นอ่อนทานตะวัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เคล้าผสมให้เข้ากัน
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ พอน้ำมันร้อนใส่ไข่เจียวลงไปทอดจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักใส่จาน โรยด้วยต้นอ่อนทานตะวัน พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ไข่เจียวต้นอ่อนทานตะวัน จับเมนูไข่มาใส่ประโยชน์
+++++++++++++++++++
22. สลัดต้นอ่อนทานตะวันทูน่า
ใครสนใจอยากทำสลัดต้นอ่อนทานตะวันบ้างเอ่ย เย็นนี้ไปหาซื้อปลาทูน่ารอเลยนะคะ สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน ใส่ผักสลัดตามชอบ ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ต้นอ่อนทานตะวัน ราดน้ำสลัดโยเกิร์ตรสเผ็ด อร่อยจริง ๆ นะบอกเลย
ส่วนผสม สลัดต้นอ่อนทานตะวันทูน่า
• ต้นอ่อนทานตะวัน 100 กรัม
• ปลาทูน่าในน้ำเกลือ 1 กระป๋อง
• ผักกาดคอส (หั่นชิ้นสั้น ๆ) 150 กรัม
• ตะไคร้ซอยบาง ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ใบสะระแหน่ผ่าครึ่ง 7 ใบ
• หอมแดงซอย 3 หัว
• มะเขือเทศราชินี (ผ่าครึ่ง) 5 ลูก
• น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกขี้หนูซอย 5 เม็ด
• เกลือป่นละเอียด 1/8 ช้อนชา
• มายองเนส 1 ช้อนโต๊ะ
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำสลัดต้นอ่อนทานตะวันปลาทูน่า
1. ผสมมายองเนส โยเกิร์ต น้ำมะนาว เกลือป่น และพริกขี้หนู ให้เข้ากัน
2. เทน้ำเกลือในปลาทูน่าออก คนเบา ๆ ให้เนื้อปลาแตกกระจายในน้ำสลัด นำต้นทานตะวันอ่อน หอมแดง ตะไคร้ มะเขือเทศ และผักกาดคอส คลุกให้ทั่ว จัดใส่จาน โรยต้นหอมและใบสะระแหน่ เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดที่ผสมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สลัดต้นอ่อนทานตะวันทูน่า ลดน้ำหนักด้วยสลัดผักออแกนิกส์สุดอร่อย
+++++++++++++++++++
ผักสลัด
ผักสลัด เป็นผักหลากหลายชนิดที่เรามักจะเห็นว่าอยู่ในจานสลัด เช่น ผักกาดคอส ผักกาดแก้ว ผักเรดโอ๊ค ผักกรีนโอ๊ค ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินซี และคุณค่าอื่น ๆ อีกเพียบ (คลิกอ่าน มารู้จักผักยอดนิยมในจานสลัดกันดีกว่า) ใครสนใจทำเมนูผักสลัด ก็ลองเข้าไปดูได้ที่ 9 เมนูสลัดลดความอ้วนแนวใหม่ ฉีกกรอบเดิมเพิ่มเติมความสวยงาม
23. ซีซาร์สลัด
เอาใจคนพิเศษด้วยเมนูผักใบเขียวสักมื้อดีกว่า ขอนำเสนอซีซาร์สลัด สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับผักสลัดใส่ตามชอบ เพิ่มอกไก่กับขนมปังกรอบ โรยชีสให้ทั่ว เสิร์ฟกับน้ำซีซาร์สลัดสำเร็จรูป
ส่วนผสม ซีซาร์สลัด
• สลัดเบบี้ลีฟ 300 กรัม
• กะหล่ำปลีสีม่วง 40 กรัม
• มะม่วง 150 กรัม
• แรดิช หรือหัวผักกาดแดง 40 กรัม
• พาร์มีซานชีส 100 กรัม
• อกไก่ 250 กรัม
• น้ำซีซาร์สลัด 50 กรัม
• ขนมปังกรอบ 10 กรัม
วิธีทำซีซาร์สลัด
1. นำผักต่าง ๆ ไปล้างให้สะอาดและหั่นให้เรียบร้อย
2. ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงอ่างผสม (ยกเว้นพาร์มีซานชีสกับขนมปังกรอบ) คลุกเคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน
3. โรยหน้าด้วยพาร์มีซานชีส และขนมปังกรอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซีซาร์สลัด ใส่มะม่วงสุก สูตรทำสลัดผักกรอบลดความอ้วนมื้อเย็น
+++++++++++++++++++
24. สลัดโรล สลัดม้วน
หลายคนคงเคยเห็นเมนูสลัดโรล หรือสลัดม้วนกันมาบ้างแล้ว ถ้าหากยังไม่เคยลองก็ไม่ต้องไปซื้อที่ไหน มาทำเองเลยดีกว่า สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1868620 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือ ใช้แป้งห่อผักสลัดและเครื่องเครา จิ้มกับน้ำสลัดตามชอบ กินง่ายกว่าสลัดแบบเดิม ๆ แน่นอนจ้า
ส่วนผสม สลัดโรล
• แป้งเปาะเปี๊ยะญวน
• น้ำเปล่า (สำหรับจุ่มแช่แป้ง)
• ผักสลัดต่าง ๆ
• แครอทหั่นยาว
• แตงกวาญี่ปุ่น หั่นยาว หรือแตงกวาไทย
• เครื่องเคียง เช่น ปูอัด ทูน่า ยำสาหร่าย หมูยอ ไส้กรอก แฮม
ส่วนผสม ซอสญี่ปุ่น
• โชยุ
• น้ำส้มสายชูหมัก
• น้ำมันงา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• งาขาวคั่ว
วิธีทำซอสญี่ปุ่น
• ผสมโชยุ น้ำส้มสายชูหมัก และน้ำมันงาคนเข้าด้วยกัน โรยงาขาวคั่ว ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
วิธีทำสลัดโรล
1. เตรียมน้ำสะอาดใส่ถ้วยใหญ่ หรือชามใหญ่ เพื่อจุ่มแป้งเปาะเปี๊ยะญวน
2. หั่นครึ่งแป้งเปาะเปี๊ยะญวน จุ่มแป้งกับน้ำเปล่าเอาแค่พอชุ่ม ๆ เสร็จแล้ววางไว้ในจานใหญ่ หรือเขียงแบน ใส่เครื่องเคียงลงไป เริ่มจากวางผัดสลัดก่อน (วางแนวขวางหัวและท้าย) ตามด้วยแครอท แตงกวาหั่นยาว ทูน่า และปูอัด
3. ม้วนให้สวยงาม หั่นครึ่ง จัดใส่ภาชนะ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สลัดโรล สลัดม้วน อาหารลดน้ำหนักตามเทรนด์ พ่วงวิธีทำน้ำสลัดแบบไม่อ้วน
เริ่มต้นปีใหม่มาทำเมนูผักใบเขียวเพื่อสุขภาพกันเถอะ มีเมนูจากผักหลากชนิดให้ได้เลือกทำกัน จะทำเป็นอาหารจานเดียว เมนูกับข้าว หรือเครื่องดื่มก็ได้ วันหยุดนี้จัดสักมื้อกันเถอะ
และอีกหนึ่งตัวช่วยในการลดน้ำหนักก็คือ Lipotwin
ผลิตภัณฑ์ช่วยลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วน เผาผลาญไขมันส่วนเกิน สารสกัดจากธรรมชาติ 100% มีส่วนผสมจาก ผงบุก และส้มแขก ซึ่งปลูกแบบออร์แกนิค จึงช่วยลดน้ำหนักกระชับสัดส่วนอย่างปลอดภัย เพราะไม่มีส่วนประกอบของยากดประสาท หรือสารเคมี
ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่า ปลอดภัย ลดจริง!!
พี่แอนทานไลโปทวินก่อนอาหารเช้าและเย็น 30 นาที ครั้งละ 2 เม็ด นาน 6 เดือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น